📝 เมื่อเอ่ยถึง OMP Hobby ชื่อนี้คงจะเป็นที่รู้จักกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ไซส์ Micro (ไซส์ 200) ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีจนเป็น OEM ได้เลย แต่กว่าจะมาเป็น M2 V3 Pro โฉมล่าสุดที่เรียกได้เต็มปากว่า All-New ก็ต้องผ่านการเทสกับเจ้า M2 EVO Mk2 มาก่อน วันนี้เลยถือว่าเป็นรีวิวแรกที่ทาง OMP Hobby Thailand จะเทียบให้ได้เห็นกันว่าตัวเก่ากับตัวใหม่นั้นแตกต่างกันอย่างไร

📝 หากมองตัวลำจากภายนอกต้องบอกได้เลยว่าต่างกันแบบ 100% ไม่ว่าจะเป็นที่หัวแคโนปี้, ตัวเฟรมลำ, บูมหาง, รวมไปจนถึงขาสกี ซึ่งเจ้า M2 V3 Pro รูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูคล้ายกับพี่ใหญ่อย่างเจ้า M7 M6 M5 เป็นอย่างมาก ส่วนเจ้า M2 EVO Mk2 นั้นมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคล้ายกับเจ้า M4 M4Max

📝 เมื่อทดลองนำหัวแคโนปี้ของเจ้า M2 V3 Pro ไปใส่กับเจ้า M2 EVO Mk2 สามารถใส่ได้เลยโดยที่ไม่ต้องทำการดัดแปลงใดๆ แต่เมื่อนำหัวของ Logo 200 มาทดลองใส่ กลับใส่ไม่ได้เหมือนกับเจ้า M2 EVO Mk2 ครับ จากนี้ต่อไปจะขอเรียกเจ้า M2 V3 Pro ว่า V3 และเรียก M2 EVO Mk2 ว่า Mk2

📝 ขยับขึ้นมาที่ชุดเฮด ชุดเฮดของเจ้า V3 จะเป็นชุดเฮดสีดำ ได้มีการปรับปรุงจีโอเมทรีของชุดเฮดรวมไปจนถึงสวอชเพลทใหม่ทั้งหมด พื่อให้ทำงานได้ดีที่สุดกับเจ้ากล่อง OFS3 นั่นเอง

📝 มาต่อกันที่เบลด เจ้า V3 นั้นได้เปลี่ยนมาใช้เบลดรุ่นใหม่ที่มีทรวดทรงคล้ายของเดิมมากแต่สิ่งที่แตกต่างกันนั่นคือ เรื่องของความแข็งที่แข็งกว่ารุ่นเก่า (Stiffness) รวมไปจนถึงในเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่า (Lightness) สิ่งที่ได้ตามมานั่นคือ ความรวดเร็วในการพลิกตัว และความนิ่งในการเกาะอากาศนั่นเอง

📝 ไปกันต่อที่ชุดหาง เจ้า V3 ได้เปลี่ยนมาใช้บูมหางที่เป็นคาร์บอนทรงกลมน้ำหนักเบาเหมือนพี่ใหญ่ M7 M6 M5 M4 ซึ่งแตกต่างจากเจ้า Mk2 ที่เป็นบูมอลูมิเนียมทรงห้าเหลี่ยม แล้วยึดเข้ากับที่ตัวลำด้วยแคลมป์อลูมิเนียมทั้งคู่ เจ้า V3 ได้เปลี่ยนมอเตอร์ใหม่เป็นรหัส R13X-3 ที่แรงขึ้นและเบากว่าตัวเดิมที่อยู่ในเจ้า Mk2

📝 ด้วยความเบาของบูมและมอเตอร์นี้เอง ทำให้ลดภาระของมอเตอร์หางที่ไม่ต้องทำงานหนัก จึงมั่นใจได้เลยว่าอาการหางนั้นดีกว่าเดิมแน่นอนครับ ส่วนใบหางนั้นเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือลวดลายที่มีความเข้ากันกับเบลดหลักนั่นเอง

📝 มาต่อกันที่เมนเฟรม ต้องบอกได้เลยว่าเจ้า V3 นั้นยึดหลักการมาจาก M4 M5 M6 ที่ใช้แชสซีส์กลางลำเป็นอลูมิเนียมเนื้อแข็งแล้วยกแท่นวางเซอร์โวไว้รอบเมนชาร์ฟ แล้วประกบยึดด้วยเฟรมคาร์บอน ซึ่งแตกต่างจากเจ้า Mk2 ที่จะใช้แชสซีส์กลางลำเป็นอลูมิเนียมเหมือนกันแต่แชสซีส์จะประกบบนล่างเข้ากับเซอร์โว แล้วใช้เฟรมคาร์บอนประกบรั้งไว้ ซึ่งการวางเซอร์โวของเจ้า V3 นั้นจะทำให้เราเซอร์วิสเซอร์โวได้ง่ายมาก

📝 ว่ากันด้วยเรื่องเซอร์โว เจ้า V3 ได้เปลี่ยนเซอร์โวมาใช้เป็นเคสอลูมิเนียมซึ่งแตกต่างจากเจ้า Mk2 ที่ใช้เป็นพลาสติก ข้อดีของเซอร์โวอลูมิเนียมก็คือเรื่องของการะบายความร้อนที่ทำได้ดีกว่าพลาสติกและยังมีความคงทนต่อการตกสึกหรอ (คลอน) อีกด้วย ในรอบนี้เท่าที่ดูของที่แถมมากับชุดคิทจะเป็นอาร์มเซอร์โว ทำให้รับรู้ได้เลยว่าจุดที่จะเป็นแพะรับบาปรับแรงกระแทกคงหนีไม่พ้นอาร์มเซอร์โวที่จะหัก แล้วเราสามารถเปลี่ยนได้โดยง่ายโดยไม่ต้องรื้อเซอร์โวออกมาจากตัวลำ

📝 ต่อมาที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือมอเตอร์หลัก เจ้า V3 นั้นมากับมอเตอร์ลูกใหม่รหัส R 40X-3 ที่ดูแล้วบางกว่าตัวที่อยู่กับเจ้า Mk2 เยอะมาก ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงน้ำหนักที่เบาลงอย่างแน่นอนแต่ความแรงนั้นยังคงเหมือนเดิม ด้วยน้ำหนักที่เบาลงและด้วยความแรงที่เท่าเดิมย่อมหมายถึงแรงกว่าเดิมแน่นอนครับ แบตเตอรี่ที่ใช้นั้นก็ยังคงใช้ที่ 750 mAh เหมือนเจ้า Mk2 แต่ด้วยเหตุที่น้ำหนักเจ้า V3 นั้นเบากว่าจึงทำให้บินได้นานกว่าด้วยเช่นกัน

📝 มาดูกันต่อที่ขาสกีตัวนี้กันบ้างครับ จุดนี้เป็นจุดที่รับแรงโดยตรงเวลาที่เราเอาฮอลงจอด ขาสกีตัวนี้ถูกผลิตมาด้วยเทคโนโลยีของเม็ดพลาสติกสมัยใหม่ จึงทำให้มันมีความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ ความที่มันอ่อนและให้ตัวได้ดีมากจึงทำให้ขาสกีของเจ้า V3 นั้นหักพังได้ยากมากเวลาที่ตกหรือรับแรกกระแทกที่รุนแรง

📝 สุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องของกล่อง FBL แน่นอนว่ามันคือกล่อง OFS3 ที่ทาง OMP Hobby พัฒนาขึ้นมาโดยเจ้าพ่อ RotorFlight อาการบินนั้นเหมือน RotorFlight แทบจะ 100% สิ่งที่แตกต่างกันนั้นก็คือหน้า UI ที่ใช้ปรับในแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือที่รองรับทั้ง iOS และ Android

📝 ข้อดีของกล่อง OFS3 นั่นก็คือ Auto Saved ในที่นี่หมายความว่าเราสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth แล้วเข้าแอพพลิเคชั่นคาไว้ได้เลย ทุกครั้งที่เราปรับเราสามารถขึ้นบินเทสอาการได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องกด Save แม้แต่ครั้งเดียวและไม่จำเป็นต้องออกจากแอพพลิเคชั่นเลย เปรียบเสมือนเราใช้งาน VControl เลยครับ เราสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ต้องมานั่งเชื่อมต่อ Bluetooth ใหม่ครับ

📝 ท้ายที่สุดนี้ ลูกค้าท่านใดสนใจเจ้า M2 V3 Pro ราคาวางจำหน่ายจะอยู่ที่ 14,900 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง) อยากเป็นเจ้าของทัก inbox สั่งกับทางร้าน SuT Hobby ได้เลยครับ

#OMPHobby

#m2v3_pro

#แสงอุทัยฮอบบี้

Posted in

ใส่ความเห็น