เจาะลึก OMPHOBBY M7R – ENGINEERED FOR CHAMPIONS
ฮอไซส์ 700 ที่ได้รับการอัพเกรดมาจากพื้นฐานของเจ้า M7 การอัพเกรดครั้งนี้ส่วนตัวขอเรียกว่า Minor Change แล้วกันครับไม่ได้เป็น Model Change แต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีเลยครับเพราะทำให้เจ้า M7 สามารถเลือกชิ้นส่วนอัพเกรดในชิ้นที่ชอบและชิ้นที่ใช่ของ M7R มาใส่ได้เลย เรามาดูกันครับว่ามีชิ้นส่วนไหนที่เปลี่ยนไปบ้าง
มาเริ่มต้นกันที่ตัวเฟรมชิ้นบนกันก่อนเลย เมื่อเราจับเฟรมท่อนบนของทั้งคู่มาวางข้างกันนั้น บนเฟรมของ M7R นั้นบางลงนิดหน่อยมีการเจาะรูเพิ่มขึ้นมาที่บริเวณแคลมป์จับบูมหาง (วงสีเขียวตามรูป) M7R ได้มีการเปลี่ยนแคลมป์จับบูมหางใหม่เพื่อให้เปลี่ยนเฟรมล่างได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องถอดบูมอีกต่อไป
เมื่อนำเฟรมของ M7 และ M7R มาวางทับกันนั้น จะเห็นได้ว่าการวางตำแหน่งของมอเตอร์และเซอร์โวรวมไปจนถึงเพลทต่างๆ ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม เพียงแต่ตัวเฟรมของ M7R จะมีการตัดเว้าออกบางส่วนเพื่อลดน้ำหนัก ในส่วนของเซ็นเตอร์บล็อคนั้นยังคงเดิมแต่เพิ่มเติมคือ มีการตัดปาดเจาะรูเพื่อลดน้ำหนักออกไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นได้แต่ยังคงความแข็งแรงอยู่
มาดูที่เฟรมชิ้นล่างกันบ้างครับ M7R ได้มีการออกแบบเฟรมชิ้นนี้ใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่ใช้ Mold Carbon พร้อมรางแบตในตัว เปลี่ยนมาเป็นแผ่นคาร์บอนพร้อมรางแบตอลูมิเนียมเป็นการแก้ไขในเรื่องของการสไลด์ถาดแบตเข้ายาก อีกสองสิ่งที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ น้ำหนักเบาและเซอร์วิสง่ายขึ้นรวมไปจนถึงราคาอะไหล่ของพาร์ทชิ้นนี้ที่ถูกลง
ชุดพาร์ทต่างๆ ในตัวลำไม่ว่าจะเป็นถาดแบต, ถาดวางแบ็คอัพที่ด้านหน้า, ถาดวาง ESC, ถาดวาง FBL รวมไปจนชุดตัวตั้งสายพานหางนั้นยังคงเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือแคลมป์จับบูมหางใหม่ โดยที่แคลมป์จับบูมหางใหม่ได้ย้ายตำแหน่งไปไว้ที่ด้านบนของตำแหน่งจุดยึดชุดเฟรมล่าง ซึ่งก่อนหน้านี้ใน M7 ตัวแคลมป์จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับจุดยึดเฟรมล่างนี้นั่นเอง (ก้านสีชมพูชี้ตามภาพ)
อีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับการอัพเกรดนั่นคือ ขาจับเซอร์โวหาง ได้มีการออกแบบใหม่พร้อมกับเจาะรูให้มีระยะในการวางเซอร์โวพอดี ถือว่าเป็นการแก้ไขที่ดีทำให้เราเซอร์วิสได้ง่ายมากขึ้น ไม่เหมือนในตัว M7 ที่ค่อนข้างแน่นเวลารื้อเซอร์วิสเราจำเป็นต้องคลายน๊อตยึดเฟรมชิ้นล่างช่วยด้วย
ในส่วนของชุดหางนั้นไม่ได้มีการอัพเดทอะไรเลยเนื่องจากชุดหางของ M7 นั้นดีอยู่แล้วครับ ยกเว้นในเรื่องของสติ๊กเกอร์ที่เราไม่ต้องมานั่งเล็งนั่งแปะกันอีกต่อไป ใน M7R ได้ทำเป็นตัวหนังสือที่ตัวบูมรวมไปจนถึงลงสีที่ฟินตั้งมาให้เรียบร้อยครับ
มาดูกันที่ระบบส่งกำลังกันครับ M7R ยังคงใช้บล็อคมอเตอร์เดิมแต่เปลี่ยนพิเนี่ยนรวมไปจนถึงเมนเกียร์ใหม่ ที่มีอัตราทด Main และ Pinion ที่ 122T และ 13T อัตราทดเท่ากับ 9.38 เท่ากับว่า Head Speed ที่ได้จะลดลง?
จากการคำนวณ Head Speed โดยปกติจะใช้ค่า Voltage ที่ต่ำสุดคือ 3.7V เพื่อจะได้ทราบ Head Speed ที่ปลาย Flight ว่าจะสามารถทำได้เท่าไหร่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถบินตามรอบ Head Speed ที่เรากำหนดจนจบ และในช่วงต้นๆ และกลางๆ Flight ยังคงมี Head Room ให้ Gov อีกประมาณ 15-20%
โดยจะกำหนดค่า Motor Efficiency ที่ 85% เผื่อในการคำนวณไว้ด้วยเลย (มอเตอร์ที่ใช้ 525KV) จากอัตราทดเดิมคำนวณรอบ Head Speed ได้ที่ 2,159 RPM
และที่อัตราทดใหม่จะได้รอบ Head Speed ที่ 2,124 RPM จะเห็นได้ว่าอัตราทดใหม่ทำให้รอบ Head Speed หย่อนไปน้อยมาก เรียกว่าแทบไม่ต่างกันเลย
แล้ว…. จะเปลี่ยนไปเพื่ออะไร? สิ่งที่เราได้กลับมาคือ Torque เพิ่มขึ้นครับ มอเตอร์ทำงานสบายขึ้น นั่นหมายถึงความร้อนย่อมลดลงด้วย
จากการทดลองบินจริงหลังจากเปลี่ยนเกียร์ชุดใหม่เข้าไป ที่ 2,100 RPM สัมผัสแรกก็สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างอย่างรู้สึกได้ทันที ฮอมีอาการเบาขึ้น ตอบสนองได้ดีขึ้นกว่าเดิม และเมื่อทดลองบินที่ 2,200 RPM ฮอเบาและไวขึ้นมาอีกเยอะมาก ไม่มีอาการ Bogging ให้เห็นเมื่อใช้ Load ต่อเนื่องเลยครับ อีกทั้ง Gov ยังสามารถรักษารอบได้เต็มตลอด Flight (ขอบคุณรีวิวจากผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่ง)
มาดูกันที่ชุดเฮดรวมไปจนถึงสวอชเพลทกันบ้างครับ ในจุดนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงอยู่กับ Geometry เดิม ไม่ว่าจะเป็นระยะของอาร์มเซอร์โว, ระยะลิ้งค์จากอาร์มเซอร์โวไปหาสวอชเพลท รวมไปจนถึงระยะลิงค์ยกพิท แต่ทุกชิ้นส่วนของชุดเฮดและสวอชเพลทนั้นมีขนาดที่บางลงเพื่อลดน้ำหนักของมวลตัวลำ
สวอชเพลทใน M7R มีขนาดที่บางลงและมีการเพิ่มแคลมป์เพื่อใช้ล็อคลูกปืนเข้ามาเพื่อให้เซอร์วิสลูกปืนหลักของสวอชเพลทได้ง่ายขึ้น ในจุดที่เปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยนั่นคือ เซ็นเตอร์ฮับของชุดเฮด ได้มีการตัดจุด Pivot Support ออกจึงทำให้มีขนาดที่เล็กลงแล้วมาพร้อมกับชุด POM Dampers ใหม่ที่รองรับรอบต่ำยันรอบสูงไม่จำเป็นต้องแยกชุดเหมือน M7 แต่ใน M7 จะมีอาร์มกริ๊ปเบลด 37 มิล แถมมาให้ด้วยซึ่งเหมาะกับการบิน F3C รวมไปจนถึงผู้หัดบิน ส่วน M7R นั้นไม่มีแถมมาให้ครับ
นอกจากนี้สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยนั่นก็คือ หัวแคโนปี้ ได้รับการออกแบบใหม่ที่มีความเหมือนให้สอดคล้องกับ M2 M5 และ M6 มากขึ้นครับ ขนาดของหัวมีขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเจน มีความสวยงามกว่าเดิมมากครับ ที่สำคัญสามารถยกใส่ M7 ได้แต่ต้องเพิ่มพาร์ท Canopy Support ด้วยครับ (โพสต์หน้าจะพาไปดูวิธีการเอาหัว M7R มาใส่ M7 ว่าต้องทำอย่างไรครับ)
OMPHOBBY Thailand 
ใส่ความเห็น